ยุโรปในปี ค.ศ. 1000 ของ ต้นสมัยกลาง

เรือยาวไวกิง (longship) จากคริสต์ศตวรรษที่ 9 ที่ขุดพบในปี ค.ศ. 1882

การทำนายว่าโลกจะสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1000 จำกัดอยู่เฉพาะนักบวชชาวฝรั่งเศสไม่กี่องค์[41] เสมียนในระบบราชการธรรมดาก็ใช้ปีครองราชย์ (regnal year) ของพระมหากษัตริย์เป็นหลักในการลำดับเดือนปีเช่น “ปีที่ 4 ของรัชสมัยของพระเจ้าโรแบร์ตที่ 2 แห่งฝรั่งเศส” เป็นต้น การใช้ระบบ “คริสต์ศักราช” (anno domini) จำกัดแต่เฉพาะบรรดานักบันทึกพงศาวดารผู้บันทึกประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับหลายดินแดนเช่นนักบุญบีด

ยุโรปเมื่อเทียบกับอิสลามแล้วก็ยังเป็นกลุ่มประเทศที่ยังคงล้าหลัง ขณะที่อิสลามมีระบบการค้าขาย และการขนส่งสินค้าด้วยระบบเครือข่ายของเส้นทางการค้าโดยคาราวานติดต่อกับดินแดนอันกว้างไกล หรือประเทศจีนซึ่งขณะนั้นเป็นจักรวรรดิที่มีประชากรมากที่สุดภายใต้ราชวงศ์ซ่ง คอนสแตนติโนเปิลมีประชากรราว 300,000 คนแต่โรมมีมากกว่าแต่ก็เพียง 35,000 คน และปารีสอีก 20,000 คน แต่อิสลามมีเมืองสำคัญๆ กว่าสิบสองเมืองตั้งแต่กอร์โดบา ในสเปน ซึ่งขณะนั้นเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีประชากรถึง 450,000 คนไปจนถึงเอเชียกลาง ส่วนไวกิงก็มีระบบการควบคุมเครือเส้นทางการค้าในยุโรปเหนือที่รวมทั้งเส้นทางการค้าที่เชื่อมบริเวณบอลติกในยุโรปเหนือกับไบแซนไทน์และตะวันออกโดยผ่านรัสเซีย แต่ก็เล็กเมื่อเทียบกับเส้นทางคาราวานของอิสลามที่เชื่อมระหว่างเมืองสำคัญๆ ของมุสลิมเช่นกอร์โดบา, อเล็กซานเดรีย, ไคโร, แบกแดด, บาสรา และ มักกะหฺ

อังกฤษอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่หลังจากการถูกปล้นสดมและทำลายโดยไวกิง แต่เมื่อถูกรุกรานอยู่เป็นเวลานานอังกฤษก็ลุกฮือขึ้นสังหารผู้เข้ามาตั้งถิ่นฐานชาวเดนส์ในปี ค.ศ. 1002 ที่นำไปสู่การตอบโต้ระหว่างทั้งสองฝ่ายจนกระทั่งฝ่ายเดนส์ได้รับชัยชนะในปี ค.ศ. 1013 แต่การเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนาอย่างรวดเร็วกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระยะยาวของการรุกรานของอานารยชน สแกนดิเนเวียเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนาไม่นานก่อนหน้านั้นและราชอาณาจักรของนอร์เวย์, สวีเดน, และ เดนมาร์ก ก็ได้รับการก่อตั้งขึ้น จักรวรรดิเคียฟรุสที่เพิ่งเข้ารับคริสเตียนออร์ธอด็อกซ์ก็รุ่งเรืองและกลายเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ไอซ์แลนด์ และฮังการีประกาศตนเป็นคริสเตียนราว ค.ศ. 1000

สถาปัตยกรรมออตโต: วัดเซนต์ไมเคิล, ฮิลเดสไฮม์ คริสต์ทศวรรษ 1010

ทางตอนเหนือของอิตาลีที่การก่อสร้างด้วยหินมิได้หยุดยั้งไปเช่นในบริเวณอื่น และในบริเวณเหล่านั้นก็เริ่มหันมาก่อสร้างสิ่งก่อสร้างสำคัญๆ ด้วยหินแทนไม้ นอกจากนั้นก็มีการเริ่มบุกเบิกใช้ป่าดิบ คริสต์ศตวรรษที่ 10 เป็นคริสต์ศตวรรษที่ประชาชนเริ่มกลับเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองโดยจะเห็นได้จากจำนวนประชากรที่เพิ่มเป็นสองเท่าในเมืองต่างๆ ในอิตาลี ลอนดอนที่ถูกทิ้งร้างไปหลายร้อยปีก็เริ่มกลายเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจขึ้นมาในช่วงนี้ เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1000 บรูจส์ และ เก้นท์ ก็มีงานแสดงสินค้าเป็นประจำหลังกำแพงปราสาทซึ่งเป็นสัญญาณของการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุโรปตะวันตก

ในช่วงเวลานี้เช่นกันที่จักรวรรดิกาหลิบของมุสลิมเริ่มแสดงสัญญานของความเสื่อมโทรมลง ความแตกแยกของมุสลิมมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างชีอะหฺและซุนนีย์ และอาหรับในเปอร์เชีย ในช่วงนี้มีจักรวรรดิกาหลิปสำคัญๆ สามจักรวรรดิ: จักรวรรดิกาหลิปอุมัยยะฮ์ในสเปน, จักรวรรดิกาหลิปอับบาซียะฮ์ในแบกแดด และ จักรวรรดิกาหลิปฟาติมียะห์ในอียิปต์ ประชากรของแบกแดดซึ่งเป็นเมืองหลวงของอับบาซียะฮ์ลดลงเหลือเพียงราว 125,000 คน (เมื่อเทียบกับ 900,000 คนในปี ค.ศ. 900) [42] อุมัยยะฮ์ยังคงมีอำนาจอยู่ในปี ค.ศ. 1000 แต่ก็มาลดลงอย่างรวดเร็วเพียงอีกไม่กี่ปีต่อมาและสิ้นสุดอย่างหมดสิ้นในปี ค.ศ. 1031

ทางด้านวัฒนธรรมของยุโรปก็มีปัจจัยหลายอย่างที่เริ่มเกิดขึ้นหลังจาก ค.ศ. 1000 ที่เป็นการบ่งถึงจุดจบของยุคกลางตอนต้นที่รวมทั้งการขยายตัวของชุมชนในยุคกลาง (medieval commune), การฟื้นฟูเมือง, การปรากฏตัวของชนชั้นใหม่ที่เรียกว่า “burgher”, การก่อตั้งมหาวิทยาลัยในยุคกลางขึ้นเป็นครั้งแรก, การฟื้นฟูกฎหมายโรมัน และการเริ่มประพันธ์วรรณกรรมโดยใช้ภาษาพื้นบ้านแทนที่จะใช้ภาษาลาติน

ในปี ค.ศ. 1000 พระสันตะปาปาอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรพรรดิเยอรมันจักรพรรดิออตโตที่ 3 หรือ “จักรพรรดิโลก” ที่ทรงเรียกพระองค์เอง แต่ต่อมาการปฏิรูปของสถาบันศาสนาก็ส่งเสริมให้มีฐานะและความเป็นอิสระเพิ่มขึ้น โดยขบวนการคลูนี, การก่อสร้างมหาวิหารด้วยหินขนาดใหญ่ และการประมวลประกาศและกฎต่างๆ เข้าเป็นคริสต์ศาสนกฎบัตร

ใกล้เคียง

ต้นสมัยกลาง ต้นสมอไทย ต้นไม้ตัดสินใจ ต้นไม้ของพ่อ ต้นไม้แบบที ต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่ว ต้นไม้ (ทฤษฎีกราฟ) ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง ต้นไม้ (โครงสร้างข้อมูล) ต้นไม้แดงดำ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ต้นสมัยกลาง http://home.vicnet.net.au/~ozideas/poprus.htm http://calendar.dir.bg/inner.php?d=16&month=2&year... http://www.programata.bg/?p=62&c=1&id=51493&l=2 http://geography.about.com/library/weekly/aa011201... http://www.absoluteastronomy.com/topics/Rome http://www.britannica.com/eb/article-9239 http://www.britannica.com/ebi/article-207743 http://www.livescience.com/history/080623-hs-small... http://www.speedylook.com/Bulgaria.html http://www.unrv.com/empire/roman-population.php